f
title
สำนักงานทางหลวงที่ 11
Office Of Highways 11
วิสัยทัศน์ : ระบบทางหลวงที่สะดวกปลอดภัย เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
กรมทางหลวงวางแนวแบริเออร์กันอันตรายพร้อมจัดรถรับ - ส่ง ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.อ่างทอง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนตามนโยบาย รวค.
ลงวันที่ 25/10/2565

นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 3064 ตอน อ่างทอง - ปากดง ในพื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ทำให้ถนนบางช่วงทรุดตัว กรมทางหลวงจึงได้นำแบริเออร์วางแนวกันอันตรายเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และได้จัดรถบริการรับ - ส่งประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงวันหยุด เพื่อความสะดวกในการเดินทางในพื้นที่น้ำท่วมสูง โดยรถจะวิ่งวนตลอดตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. โดยรถจะออกจากโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ผ่านสามแยกไฟแดงป่างิ้ว เข้าตัวเมืองอ่างทอง ผ่านหน้าศาลากลางอ่างทอง ผ่านหน้าโรงพยาบาลอ่างทอง แล้ววนกลับเส้นทางเดิม นอกจากนี้กรมทางหลวงยังได้ดำเนินภารกิจกู้เส้นทางในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ กั้นน้ำโดยการวางกระสอบทราย พร้อมทำการติดตั้งป้ายเตือนแนวทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้

 

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 24 ตุลาคม  2565 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี และ จ.ภูเก็ต จำนวน 20 สายทาง 26 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 16 แห่ง ดังนี้

 

  1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 แห่ง ได้แก่

        - ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ทางขาด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

    

  1. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่

           - ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

         - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

        - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

          - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 30 - 45 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

           - ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

          - ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 40 - 55 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

  1. 3. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี

         - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 5 พฤศจิกายน 2565

         - ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 35 - 90 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 5 พฤศจิกายน 2565

          - ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120 – 14+550 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 45 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2382 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 26 ตุลาคม 2565

 

4.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง – บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ  60 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

5.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง

          - ทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ - ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 27+500 ระดับน้ำ 85 – 90 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

6.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง

         - ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 40 - 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

 

7.จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+022 – 35+100 ระดับน้ำ 80 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030 คาดว่าการจราจรผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

 

8.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 การจราจรคาดว่าสัญจรผ่านได้ภายใน 7 วัน

 

ทั้งนี้ ในส่วนของป้ายทะเบียนรถที่สูญหายจากอุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สามาถติดต่อสอบถามได้ที่ หมวดทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1


'