f
title
สำนักงานทางหลวงที่ 11
Office Of Highways 11
วิสัยทัศน์ : ระบบทางหลวงที่สะดวกปลอดภัย เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
กรมทางหลวงดำเนินภารกิจกู้เส้นทางน้ำท่วมบนทางหลวงอย่างต่อเนื่อง พร้อมสรุปสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวง ประจำวันที่ 18 ต.ค. 65 ยังผ่านไม่ได้ 24 แห่ง
ลงวันที่ 18/10/2565

นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า วันนี้ (18 ต.ค. 65) กรมทางหลวง โดย แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์พนังกั้นน้ำลำชีแตก จ.กาฬสินธุ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนส่งเครื่องจักรกลหนัก วัสดุ อุปกรณ์ซ่อมแซมอุดรอยแตกเบื้องต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 7 วัน นอกจากนี้กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ ดำเนินการภารกิจกู้เส้นทาง โดยได้จัดเจ้าหน้าที่กรอกกระสอบทราย วางกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณริมไหล่ทางด้านนอกและสูบน้ำที่ท่วมผิวทาง ตลอด 24 ชั่วโมง  เพื่อรักษาสภาพทางหลวงให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัยบริเวณดังกล่าว ป้องกันเส้นทางไม่ให้เกิดทางขาด สะพานขาดอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการติดตั้งหลักเตือนแนวทาง เพื่อความสะดวก ปลอดภัยและเพิ่มทัศนวิสัยแก่ผู้ใช้ทาง เส้นทางที่น้ำลดแล้วได้มีการทำความสะอาดผิวทางและสองข้างทางให้เรียบร้อยและสำรวจความเสียหายของ ถนน สะพาน และระบบระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

 

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 18 ตุลาคม  2565 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.นครราชสีมา ,จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.ยโสธร, จ.นครปฐม, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี และ จ.นครสวรรค์ จำนวน 28 สายทาง 36 แห่ง  การจราจรผ่านไม่ได้ 24 แห่ง ดังนี้

 

  1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่

        - ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ทางขาด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

        - ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 8+200 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน           

         - ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+200 – 15+100 ระดับน้ำ 50 – 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600  

    

  1. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่

         - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 70 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178

        - ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 45 – 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

         - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 65 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

        - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

          -ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000  - 39+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้            

          - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 - 95 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

           - ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 45 - 75 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

          - ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

  1. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย – ชุมพวง ในพื้นที่ อ.ชุมพวง ช่วง กม.ที่ 18+700 – 20+300 ระดับน้ำ 5 - 10 ซม. น้ำกัดเซาะพื้นผิวเป็นหลุมบ่อ ปิดการจราจรชั่วคราว ใช้ทางเลี่ยง ทล.2 ถึงแยกบ้านวัดเลี้ยวขวาเข้า ทล.207 ตัดเข้า ทล.202 เพื่อเข้าจังหวัดมหาสารคาม หรือ ใช้ ทล.2226 เพื่อเข้าจังหวัดบุรีรัมย์

 

  1. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 30 - 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013

 

  1. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 6 แห่ง

          -ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ช่วง กม.ที่ 260+700 – 261+800 ระดับน้ำ 50 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2383

        - ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 110 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี

          - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 45 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178

         - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 80 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178

         - ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 80 - 120 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231

          - ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+920 – 14+480 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 50 - 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2382

 

6.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง - บ้านเขื่อน พื้นที่ อ.โกสุมพิสัย ช่วง กม.ที่ 17+300 - กม.18+000 ระดับน้ำ 20 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 ช่วง กม.567+900

 

  1. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 2 แห่ง

         - ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 15 - 20 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้

 

8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง

         - ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ช่วง กม.ที่ 9+793 – 15+950 ระดับน้ำ 35 - 45 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038

 

  1. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3 แห่ง

        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 32+022 – 35+100 ระดับน้ำ 90 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030

        - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900 – 44+100 ระดับน้ำ 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)

        - ทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ – บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100 ระดับน้ำ 35 - 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

 

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1


'